'สังศิต' ชี้คาสิโนไทยเกิดช้า จะเปิดต้องทำให้ดีกว่า ยันได้เงินปีแรก4แสนล.
“สังศิต” ระบุเปิดคาสิโนในประเทศ สร้างเม็ดเงินปีแรก 3-4 แสนล้านบาท ชี้ต้องทำให้ดีกว่าสิงคโปร์ ย้ำไทยเกิดช้าไป
นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ คณะบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต และสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เปิดเผยถึงกรณีที่สมาชิกสปช.บางกลุ่มเสนอแนวทางการตั้งบ่อน คาสิโน ถูกกฏหมายในประเทศ
เพื่อนำเงินมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจและพัฒนาประเทศว่าประเด็นการเปิด คาสิโน ในประเทศไทยมีการพูดถึงมานานแต่ไม่เคยมีความชัดเจนใดๆ จนประเทศเพื่อนบ้านเราเปิดกันไปหมดแล้วโดยเฉพาะประเทศสิงคโปร์ที่มุ่งเน้นโดยการสร้างเป็นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและใช้รองรับการประชุมองค์กรระดับสากลที่มีจำนวนผู้เข้าร่วมจำนวนมากและบ่อนคาสิโนก็เป็นเพียงองค์ประกอบที่สำคัญน้อยกว่าเพื่อเอาไว้ให้นักท่องเที่ยวหรือผู้มาประชุมในประเทศได้ใช้บริการ
นายสังศิต กล่าวว่า เมื่อเรามาทีหลังก็ต้องทำให้ดีกว่าสิงคโปร์ในทุกมิติโดยเฉพาะการมีหอประชุมขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับผู้เข้าร่วมประชุมได้ราว2-3 หมื่นคน สถานที่ท่องเที่ยว โรงแรมที่พัก แหล่งช้อปปิ้ง
กิจกรรมบันเทิง ร้านอาหาร ระบบคมนาคมขนส่ง เช่นรถไฟฟ้าที่สามารถเชื่อมโยงถึงกันได้อย่างสะดวกครบครันซึ่งแนวทางที่มีการเสนอให้เปิดที่พัทยาจึงถือว่าเหมาะสมเพราะถ้าเปิดในพื้นที่ห่างไกลซึ่งไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวศักยภาพในการรองรับด้านสาธารณูปโภคและอื่น ๆ อาจมีเพียงพอต่อการรอง อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยมีข้อได้เปรียบสิงคโปร์ 2ประการ คือ 1.เรื่องวัตถุดิบในการประกอบอาหาร ที่ผลิตเองได้และเมื่อมีกาสิโนความต้อง การบริโภคก็จะเพิ่มขึ้นด้วยส่งผลให้ราคาพืชผลปรับตัวสูงขึ้นต่างจากสิงคโปร์ที่ต้องนำเข้าวัตถุดิบทั้งหมด 2.ประเทศไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวมากกว่าเมื่อชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาก็ย่อมมีทางเลือกที่หลากหลายมากกว่าสิงคโปร์
“บ่อนกาสิโนในประเทศไทยเกิดช้าไป ประเทศอื่นเปิดกันไปหมดแล้ว แต่ว่าการเปิดทีหลังนั้นได้เปรียบ ถ้าทำได้ดีกว่า เพราะเราเห็นจุดอ่อนของคนที่เปิดก่อน และนำมาแก้ไข“นายสังศิต กล่าว
นายสังศิต กล่าวว่า นับตั้งแต่ประเทศสิงคโปร์เปิดบ่อนคาสิโนอย่างถูกกฏหมายเมื่อ ปี 2552จนถึงปัจจุบัน ตัวเลขนักท่องเที่ยวเพิ่มสูงขึ้นจาก 9.7 ล้านคน เป็น 15ล้านคน อัตราการจองห้องพักเพิ่มขึ้น 24% อัตราการเข้าพักเพิ่มขึ้น 10%สร้างงานให้ผู้คนราว 3 หมื่นตำแหน่ง รวมเม็ดเงินทั้งสิ้นประมาณ 1.9แสนล้านดอลล่าร์สิงคโปร์ อย่างไรก็ตามตนมองว่าเมื่อประเทศไทยมีบ่อนกาสิโนเกิดขึ้นตามรูปแบบของสิงคโปร์คาดว่าในปีแรกที่เปิดน่าจะสร้างรายได้ราว 3-4แสนล้านบาทและรายได้จะขยับเพิ่มขึ้นในปีต่อ ๆ ไป
เนื่องจากเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น ทั้งนี้แม้จะมีความกังวลว่าการเปิดบ่อนคาสิโนจะเป็นการมอมเมาเยาวชนแต่ตนมองว่าคงไม่ใช่ เพราะจะมีการกำหนดเกณฑ์ผู้เข้าเล่นว่าต้องไม่ต่ำกว่า 30 ปี ต้องแสดงหลักฐานรายได้ 2-3 แสนบาทต่อเดือนและต้องจ่ายค่าเข้าใช้บริการซึ่งคนที่เข้าเกณฑ์และสามารถเล่นได้ล้วนเป็นคนที่ประกอบอาชีพหาเงินได้จำนวนมาก เช่น เจ้าของกิจการ หรือผู้บริหารระดับสูง
นายสังศิต กล่าวว่า การเปิดบ่อนคาสิโนเป็นคนละเรื่องกับการแก้ปัญหาบ่อนใต้ดิน ที่แก้ไขได้โดยการปฏิรูปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้มีการแยกพนักงานสอบสวนเป็นอีกหน่วยงานหนึ่งที่จะทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เคยเกี่ยวข้องกับบ่อนใต้ดินและธุรกิจผิดกฏหมายต่าง ๆ จะเกรงกลัว เพราะหน่วยที่ตั้งแยกออกมาจะดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ที่ผ่านมาจึงมีเสียงคัดค้านการดำเนินการปฏิรูปเรื่องดังกล่าว